ในครั้งนี้ผมจะพูดถึงเกี่ยวกับการย้อมสีผมด้วย “โฟมย้อมสีผม”ที่วางขายทั่วไปในตลาดครับ
ที่จริงเเล้วเมื่อประมาณเดือนก่อน ทางร้านได้ทำการแก้ไขผมของน้องนางแบบผม ที่ได้ย้อมผมเองด้วยโฟมเปลี่ยนสีผมเเล้วเกิดความผิดพลาดสีออกมาไม่ถูกใจ รวมถึงสภาพผมที่ได้รับความเสียหายด้วยครับ
ก่อนอื่นเลยทางร้านต้องแจ้งว่า การเปลี่ยนสีผมด้วยตนเองนั้นทางร้านค่อนข้างไม่แนะนำครับ
แต่ ในช่วง Lock down แบบนี้อาจทำให้เลี่ยงไม่ได้ วันนี้เลยจะมาแชร์วิธีการทำสีผมด้วยตนเองยังไงให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดครับ !
✔️ย้อมผมเองเเล้วเกิดผิดพลาด!
✔️ย้อมเเล้วสีออกมาไม่สม่ำเสมอ…
✔️รู้สึกไม่ชอบกับผลลัพธ์ของสีที่ออกมา!
【ข้อสงสัย】โฟมย้อมผมที่วางขายอยู่ทั่วไปนั้นมันทำไมหรอ?
ยาย้อมผมที่วางขายทั่วไปในตลาดนั้น แบ่งหลักๆได้ 3 ประเภทครับ
- ชนิดแบบครีม
- ชนิดแบบโฟม
- แชมพูหรือทรีทเม้นท์สำหรับเปลี่ยนสีผม
แต่ละประเภทนั้นก็มีข้อดีต่างกันไป รวมถึงยาเวชภัณฑ์ที่เป็นส่วนผสม หรือวิธีในการย้อมก็เเตกต่างเช่นกันครับ
ข้อดีของชนิดแบบครีมย้อมผม
เป็นประเภทเบสิกเเละมีหลายหลายชนิด(ที่ร้านซาลอนมักเป็นการใช้แบบครีม)
ข้อดี:สามารถเเยกส่วนและลงสีได้
ข้อเสีย:ยากในการลงสีให้สม่ำเสมอ
ข้อดีของชนิดแบบโฟมย้อม
มักมีส่วนผสมของสารลดแรงตรึงผิว ใช้ย้อมโดยการนวดโฟมทั่วศรีษะ
ข้อดี:เเม้ใช้เพียงปริมาณน้อยก็สามารถย้อมได้อย่างครอบคลุม
ข้อเสีย:ทำให้ผมเสียง่าย เเละไม่สามารถแบ่งส่วนในการลงสีได้
ข้อดีของชนิดแบบแชมพู เเละทรีทเม้นท์ย้อมสี
ต้องใช้การสระหรือลงทรีทเม้นท์หลายๆครั้งเพื่อให้สีชัดขึ้นเรื่อยๆ
ข้อดี:ไม่ค่อยทำให้ผมได้รับความเสียหาย
ข้อเสีย:วิธีการใช้ย้อมนั้นเเตกต่างกันไปตามสภาพของเส้นผม(ในบางกรณีก็ไม่สามารถย้อมด้วยวิธีนี้ได้)
ถ้าหากย้อมพลาดไปจะทำยังไงดี? สีหรือส่วนที่เสียหายจะเป็นอะไรไหม?
ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า ยาย้อมสีผมที่วางขายทั่วไปนั้นค่อนข้างส่งผลกระทบต่อเส้นผม ทำให้ผมเสียง่าย
5 เหตุผลที่ช่างทำผมไม่เเนะนำให้ลูกค้าทำสีผมเอง
- ไม่สามารถแบ่งส่วนย้อมในส่วนโคน เเละส่วนปลายผมได้ ทำให้สีผมออกมาไม่สม่ำเสมอ
- เนื่องจากยาย้อมที่วางขายทั่วไปถูกออกแบบมาให้มีการผสมของเวชภัณฑ์ในระดับแรงจึงมักทำให้ผมได้รับความเสียหาย
- เพื่อที่จะทำให้สีออกมาสวยชัดจึงต้องมีการใส่ผสม “สีย้อมชั่วคราว”ลงไป ซึ่งส่งผลให้สีอยู่ได้ไม่นานก็หลุดครับ
- มักมีสารเคมีตกค้างบนผมเเละศรีษะ ที่เเม้สระผมด้วยแชมพูก็ไม่สามารถขจัดออกได้หมดครับ
- เพราะยาย้อมทั่วไปผลิตมาเพื่อให้ใครก็สามารถย้อมได้ จึงทำให้ยากในการย้อมให้ได้สีที่ต้องการจริงๆครับ
ในขณะที่ร้านซาลอนนั้น จะทำการประเมินสภาพผมของลูกค้าเเละเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับเส้นผมของลูกค้ามากที่สุดในการทำสี
เพราะสภาพผมของแต่ละคนที่แตกต่างกันนั้น ส่งผลต่อสี รวมถึงระดับความเสียหายด้วยวิธีนี้ ช่างผู้รับผิดชอบจึงสามารถควบคุมความเสียหายของเส้นผมของท่านได้ เเละสามารถสนองต่อความต้องการเเละให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
อีกทั้งทางร้าน neve ของเรา หรือจะเป็นร้านสาขา atricka ของเรานั้น เน้นย้ำอย่างมากในการ “ล้างสารเคมีตกค้าง” หลังการทำเคมีทุกครั้ง ทำให้หลังทำเคมีกับทางร้านท่านจะสามารถวางใจถึงเรื่องนี้ได้เลยครับ
เเละหากมีการบำรุงดูเเลผมต่อๆไป นอกจากจะทำให้ผมได้รับผลกระทบน้อยลงเเล้ว ยิ่งการที่มีผมสุขภาพดี ยิ่งทำให้สีย้อมสามารถคงอยู่บนเส้นผมได้นานขึ้นอีกด้วยครับ
「แล้วถ้าหากทำพลาดไปแล้วหล่ะ?」เเนะนำให้ทางซาลอนช่วยแก้ไขให้ครับ!
ถ้าหากเกิดการผิดพลาดต่างๆขึ้นหลังการทำสีด้วยตัวเองเเล้ว ผมแนะนำว่าควรปรึกษากับช่างผู้เชี่ยวชาญที่ซาลอนครับ ในกรณีนี้กระบวนการต่างๆนั้น ผมรวบรวมคร่าวๆไว้ที่ด้านล่างครับ หากทำตามกระบวนการแล้วละก็จะสามารถมีผมสวยกลับคืนได้ ส่วนวิธีที่ดีที่สุดนั้นต้องทำการคิดประเมินจากของจริงเเละตัดสินใจไปพร้อมกันครับ
สีผม、ให้เช็คดูเพื่อยืนยันความเสียหายก่อน ↓ ในกรณีมีความเสียหายมาก ให้จัดลำดับการดูรักษาตามความสำคัญก่อนหลัง (เส้นผมที่ได้รับความเสียหายมาก จะทำให้สีไม่ค่อยติดชัด) ↓ คิดถึงความเสี่ยงต่างๆ เเละตัดสินใจถึงแผนการรักษา (เช่น ให้การรักษาผมที่เสียหายก่อน、หรือจะรักษาดีไซน์หรือสีผมก่อน เป็นต้น) ↓ ทำการรักษา(เน้นการทำทรีทเม้นท์ทั้งก่อนเเละหลัง)
ตัวอย่างแผนในการฟื้นฟู
【แบบภาระน้อย】การทำโทนเข้มที่ให้ความรู้สึกสงบ→ สำหรับกรณีที่ย้อมสว่างมาเกินกว่าที่คิด
【ภาระปานกลาง ถึง มาก】การทำ Highlight หรือการทำไล่สี Gradation→ สำหรับในกรณีสีผมไม่สม่ำเสมอ
【ภาระมาก】การเลือกทำโทนสว่างไปเลย→ สำหรับกรณีสีผมไม่สม่ำเสมอ หรือในตอนที่อยากเปลี่ยนสีใหม่ไปเลย
【ภาระน้อย ถึง ปานกลาง】การกำจัดสีเฉพาะในส่วนที่เสียหาย→ สำหรับแก้ไขให้เป็นสีที่ต้องการในตอนเเรก หรือกรณีสีที่ทำออกมาดูขุ่นมัว *ในบทความนี้อธิบายถึงแผนการ
สิ่งที่สามารถทำได้เอง ในการทำสีผมเองที่บ้าน
ถ้าหากว่าต้องทำสีผมด้วยตัวเองนั้น การบำรุงก่อนเเละหลังทำสีนั้น จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
อยากให้ทุกคนจำเตรียมไว้!เพราะจะเป็นประโยชน์ในการทำสีผมเองมากๆครับ
การเตรียม
ในส่วนของ Hairline รวมถึงช่วงใบหูเเละลำคอ ควรทำการทาวาสลีน หรือออย เพื่อทำการปกป้องผิวหนังบริเวณใกล้เคียง เเละทำการแบ่งผมเป็นช่อๆไว้ครับ(รอบๆใบหน้าแบ่งเป็น ด้านข้างทั้งสองข้าง ส่วนของหลังศรีษะทั้งบนเเละล่าง รวมเป็น 4 จุดครับ)
เวชภัณฑ์ (ยาย้อม)
การลงเวชภัณฑ์ในส่วนปลายผมนั้น เพื่อไม่ให้น้ำยาเเรงเกินไปควรผสมน้ำลงไปด้วยครับ(อยู่ที่ประมาณ 25% จากปริมาณทั้งหมด )
ในส่วนที่ไม่ต้องการให้โดนตัวเวชภัณฑ์ ให้ลงพวกคอนดิชันเนอร์เตรียมกันไว้ก่อนครับ
การลงสี
ทาตามลำดับตามนี้ครับ ต้นคอ→ส่วนหลังศรีษะ→รอบกรอบหน้า
ลงสีที่โคนผมดำที่ขึ้นใหม่ก่อน
เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดได้เเล้วครับ
แต่อย่างไรก็ตาม การย้อมสีผมด้วยตนเองให้ผลลัพธ์ออกมาสีสวยเเละสม่ำเสมอนั้น ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ยากครับ
หากเกิดความผิดพลาดขึ้น หรือเกิดความกังวลในจุดไหน ให้ลองปรึกษากับทางช่างประจำดูนะครับ
ทางช่างประจำจะช่วยคิดหาทางออกที่ดีที่สุดให้แก่คุณแน่นอนครับ
ทางร้านได้ลองแก้ไขสีผมจากการทำสีด้วยตนเองมาครับ !
เรามาเริ่มกันเลยครับ
นี่คือ น้องเกมส์ นางแบบผมประจำของที่ร้านครับ
น้องทำงานเสริมเกี่ยวกับการรับโฆษณาต่างๆ ทำให้บางครั้งเพื่องาน ต้องมีการทำสีผมด้วยตนเองครับ อีกทั้งยังค่อนข้างเปลี่ยนสีผมบ่อยในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน น้องจึงกังวลเกี่ยวกับสภาพเส้นผมของตนเองครับ ในครั้งนี้ เพื่องานน้องจึงได้มีการย้อมผมด้วยตนเอง ผลคือสีผมออกมาไม่สม่ำเสมอครับ
เเละในครั้งนี้เพื่อแก้ไขสีผมไม่สม่ำเสมอ ได้ตัดสินใจย้อมสีโทนเข้มที่จะช่วยให้ผมที่ออกมาดูเงางาม เเละสุขุมขึ้นครับ
Before
ในส่วนโคนนั้นเป็นสีโทนเข้ม ส่วนกลางผมเริ่มมีความสว่าง เเละในส่วนปลายผมนั้นค่อนข้างติดสีเหลืองเหลือบเขียวเล็กน้อยครับ
ในกรณีนี้มักเกิดขึ้นจากการย้อมสีด้วยตนเองจากสีย้อมที่มีขายทั่วไปครับ เเละเพื่อกลบความแดงของเม็ดสีผมลูกค้าจึงทำการย้อมสีที่มีส่วผสมของสีโทนเขียว เเต่ผลคือสีที่ออกมานั้นถูกผสมทับกันจนขุ่น ไม่ดูโปร่งสวย
ก่อนอื่นผมจะทำการกำจัดสีย้อมที่ยังติดค้างอยู่บนเส้นผมออกก่อนครับ เเละในส่วนช่วงโคนผม จนถึงส่วนกลางนั้นจะทำการไล่สีแบบ Gradation เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติครับ
หลังจากกำจัดสีที่ย้อมก่อนหน้าออก
ได้ทำการกำจัดสีที่ถูกย้อมทับกันเป็นจำนวนมากออกเเล้วครับ
เเละเนื่องด้วยเม็ดสีในเส้นผมไม่ถูกทำลาย ทำให้ความสว่างไม่เปลี่ยนครับ
ในการเตรียมพื้นผมให้พร้อมอย่างดีก่อนทำการลงสีนั้น แม้ต่อไปสีผมจะเริ่มหลุดออกก็ไม่ทำให้เกิดสีผมไม่สม่ำเสมอ เเละหากทำการย้อมสีในครั้งต่อไปก็จะได้สีผมที่ออกมาสวยด้วยครับ
After
ทำการลงสีโทน Dark Greige ลงทับไปครับ
ช่วยกลบความส้มของเม็ดสีผมก่อนหน้าออกได้อย่างดีเลยครับ
แต่หากผสมสี Ash Blue ลงไปมากเกินนั้น อาจทำให้หน้าดูหมองได้ เป็นเรื่องที่ต้องระวังครับ
สำหรับท่านที่ผมหลุดเป็นสีเหลืองง่ายนั้น เเนะนำผสมสีโทนแดงอย่าง Pink หรือ Orange ลงไปกับสี Ash หรือ Grey จะทำให้ผลลัพธ์สีออกมาดูสุขภาพดีเงางาม อีกทั้งยังช่วยให้สีติดทนขึ้นด้วยครับ
*ในรูปค่อนข้างรู้สึกได้ถึงความส้มนิดหน่อย เเต่สีจริงๆเเล้วออกมาคล้ายกับในVDOครับ
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ผมคิดว่าการเลือกสีผมนั้น สำคัญที่การเลือกสีที่เข้ากับผิว เเละสีที่ไม่ทำให้ดูเหมือนผมเสีย เเละต้องมีความเงางามของสีครับ
ด้วยเหตุนี้การให้ทางซาลอนช่วยดูเเลจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ
แม้การทำสีด้วยตนเองจะมีค่าใช้จ่ายไม่มาก เเต่การที่จะได้สีผมที่เข้ากับสีผิวหรือมีประกายความเงาขึ้นมานั้นยากครับ
เเละถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา กว่าที่จะทำให้ผมกลับไปสวยดังเดิมนั้น อาจต้องเสียทั้งเวลา เเละเงิน ดังนั้นควรระมัดระวังในการเลือกนะครับ!
เเละถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่า สีผมไหน หรือผมสไตล์ไหนที่เข้ากับตนเอง อย่าลืมมาปรึกษากันนะครับ
【ค่าใช้จ่ายสำหรับเมนูนี้】 การกำจัดสีผมตกค้าง→3500〜4000 บาท การทำสีผม→2300〜3000 บาท Olaplex Hair Color Mixed→500~1000บาท