ทั้งดาราและนางแบบมากมาย ได้มีการทำสไตล์ผมโดยใช้ประโยชน์จากการที่มีผมขาวที่มีเป็นจำนวนมากเลยครับ
ที่ neve ก็ได้รับคำถามจากลูกค้าเข้ามามากมายเลยครับ
『ควรย้อมปิดผมขาวไปเรื่อยๆจนถึงเมื่อไหร่?』
『แล้วเมื่อไหร่ถึงสามารถทำสไตล์ Silver Hairได้?』และอีกมากมาย เป็นต้น…
หากพูดว่า “ต้องย้อมผมเดือนละครั้งนะ” การที่ต้องคอยเติมสีอยู่ตลอดนั้นแค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ
แต่หากเปลี่ยนมาทำ Gray Hair (สไตล์ผมขาวที่ดูสวยงาม)แบบปุบปับ ภาพลักษณ์ก็จะเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด จนอาจรู้สึกไม่ค่อยสบายใจใช่ไหมครับ
วันนี้จะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ
ที่จริงแล้วทางร้านก็มีให้การแนะนำครับ กับลูกค้าที่อยู่ในระหว่างเปลี่ยนมาทำสไตล์Gray Hair คือการค่อยๆปรับเปลี่ยนมาเป็นสไตล์ผมขาว โดยที่ก่อนหน้าเคยย้อมสีกลบผมขาวแล้วยังคงมีสีย้อมเหลืออยู่
✔️อยากรู้เกี่ยวกับ Gray Hair(Silver Hair)ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้
✔️ตอนนี้ทำการย้อมปิดผมขาวอยู่ แต่อยากเปลี่ยนมาทำสีสว่าง
✔️อยากทำสีผมที่ใช้ประโยนช์จากผมขาวในการทำดีไซน์
✔️กังวลเกี่ยวกับโคนผมที่ขึ้นใหม่ หลังย้อมปิดผมขาว
ผมเทา (Gray Hair)คือสีแบบไหน?
หากเป็นตามคำศัพท์ปกติ Gray Hair คือผมขาวตามธรรมชาติที่ไม่ผ่านการย้อมสีใดๆครับ
แต่หากพูดถึงในด้านการทำ『ดีไซน์สี』คือการที่ออกแบบสีโดยอิงจากผมขาวที่มีอยู่ ทำให้ 「ไม่ใช่ผมขาวตามธรรมชาติ」แต่เป็น「หนึ่งในการย้อมผมขาว」ที่เป็นการคิดดีไซน์และใส่สีลงไปครับ
มีหลายกรณีเลยครับที่ผมขาวขึ้นเป็นกระจุกรวมในบางตำแหน่ง โดยเฉพาะในส่วนบนของศรีษะและบริเวณรอบใบหน้าที่ทำให้เป็นที่สังเกตุเห็นง่าย เนื่องจากในบางส่วนที่ไม่มีผมขาวนั้นจะอยู่ในโทนเข้ม เมื่อเจอกับผมขาวที่เป็นโทนสว่าง ผมขาวเลยดูเด่นออกมาครับ อาจทำให้ดูไม่สมดุลขึ้นมาได้ด้วยครับ
ยกตัวอย่างเช่น ในบริเวณรอบใบหน้าที่มีผมขาวงอกขึ้นมาแบบเป็นกระจุกรวมกัน แต่ในส่วนด้านหลังกลับเป็นสีเข้ม หากมองไปจะทำให้เห็นถึงความไม่สมดุล จึงสามารถแก้โดยการทำไฮไลท์ลงไปเพื่อลดความคอนทราสของสีลงครับ
หากทำไฮไลท์และสามารถดึงความสว่างของสีให้ดูสมดุลได้ เวลาย้อมสีทับลงไปในส่วนที่ผมขาวเคยกระจุกตัวอยู่จะดูเนียนและไม่โดดออกมาแล้วครับ
สีที่แนะนำคือ Smoky Beige , Greige , Ash Grey เป็นต้น เป็นสีใกล้เคียงกับสี Mono tone ครับ เพื่อให้สีขาวและสีดำกลายเป็นสี Mono tone สีตามที่กล่าวมานั้นจะเข้ากันได้ดีมากๆครับ◎
ในทางกลับกัน แม้จะทำโทนสีสว่างแต่กลับยิ่งทำให้ผมขาวดูเป็นที่สังเกตุ คือสี แดง และ สีเหลือง เป็นต้นครับ
สีเหล่านี้ที่กล่าวมานั้น ไม่ได้อยู่ในโทนเดียวกับสีขาวหรือดำ จึงทำให้ดูกลมกลืนยากครับ
(แต่หากนำมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งในดีไซน์ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ)
ทำยังไงดีหากจะเปลี่ยนมาทำ Gray Hair?
ถ้าหากทำการหยุดการย้อมแบบทันทีทันใด สีที่เคยย้อมมาจนปัจจุบันนั้นจะทำให้เห็นถึงเส้นแบ่งของสีที่ต่างกัน ทำให้ภาพลักษณ์ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะกับท่านที่เป็นคนมีผมดำตามธรรมชาติ
แนะนำให้ค่อยๆปรับความสว่างของสีเพื่อเก็บความสวยงามโดยรวมเอาไว้ครับ
อย่าลืมต้องปรึกษากับช่างที่ดูแลนะครับ เพื่อกำหนดเวชภัณฑ์ที่จะใช้ในการค่อยๆปรับความสว่างครับ
สำหรับผมสั้น ใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 6〜12เดือน、ผมยาวปานกลาง อยู่ที่12〜24เดือน、ผมยาว อยู่ที่ 24〜36เดือนโดยประมาณครับ ในการปรับเปลี่ยนทั่วทั้งศรีษะ
ดังนั้นจึงควรทำการวางแผนล่วงหน้านะครับ
การดูแลในระหว่างที่ผมกำลังขึ้นใหม่?
ขึ้นอยู่กับปริมาณของผมขาว แต่หากยิ่งลงสีในโทนสว่าง หรือสีโทนอ่อนลง จะยิ่งสามารถลดความถี่ในการทำสีลงได้ หากพูดให้เห็นภาพลองคิดถึงผมขาวที่ถูกล้อมรอบด้วยผมดำจะยิ่งเห็นผมขาวชัดใช่ไหมครับ จึงเป็นสาเหตุที่คนย้อมสีดำเข้มในการปิดผมขาวจะเริ่มกังวลกับผมขาวขึ้นใหม่ในเวลาประมาณ 2อาทิตย์หลังย้อมครับ
ในทางกลับกัน หากยิ่งทำสีในโทนสว่างทั่วศรีษะ จะช่วยล่นระยะเวลาที่สีเกิดความต่างออกไปได้
และหากทำไฮไลท์ที่ปกติดีไซน์จะอยู่ได้ถึง 4〜6เดือน ในระหว่างนั้นก็เน้นลงสีเฉพาะในบริเวณโคนเพื่อการลดการกระทบต่อผมและบำรุงไปด้วยได้ครับ
สิ่งที่ต้องระวังของ Gray Hair
ในการเปลี่ยนมาทำสไตล์ Gray Hair มีหนึ่งสิ่งที่อยากให้ทำความเข้าใจไว้ครับ
นั่นคือ『การใช้สี』ในการแต่งตัวและแต่งหน้าครับ
หากเทียบกับสีโทนมืดแล้ว Gray Hair นั้นค่อนข้างเป็นสีที่「สว่างมาก」ครับ
ดังนั้นเพื่อให้เข้ากัน การใช้สีที่ดูสดใสขึ้นมานิดนึงในการแต่งหน้า หรือแต่งตัวจะให้ให้เกิดความสมดุลขึ้น และทำให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้นด้วยครับ
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการแต่งตัวมากขนาดนั้นครับ แต่การแต่งตัวในโทนสีแบบ Mono tone หรือสีที่เป็นธรรมชาติมากเกินไปจะทำให้ดูจืดได้ อาจเพิ่มการใช้ผ้าพันคอเล็กๆ หรือของประดับตกแต่งชิ้นเล็กๆมาช่วยก็เพียงพอแล้วครับ
การแต่งหน้านั้นควรเลือกสีที่ช่วยขับให้ดูมีเลือดฝาด◎
ผมขาวและผมดำที่เป็นMono Toneเพราะไม่มีส่วนผสมของดีแดงอยู่นั้น หากแต่งหน้าด้วยลุคที่ธรรมชาติมากเกินไปจะทำให้ดูจืด และดูเหมือนเหนื่อยได้ และอย่าลืมเปลี่ยนสีของบลัชออน หรือ Eye Shadow เพื่อให้เข้ากับสีผมด้วยนะครับ!
【Salon’s Style】เปลี่ยนมาทำ Gray Hair โดยการค่อยๆปรับโทนให้สว่าง
เรามาดูการทำสีผมของลูกค้าที่อยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนมาทำสไตล์ Gray Hair กันครับ
สีเดิมที่ย้อมก่อนหน้าคือสีน้ำตาลโทนสว่างครับ แล้วค่อยๆลดปริมาณของเม็ดสีลงเรื่อยๆ ปัจจุบันอยู่ในสี Greige แบบซีดครับ
ระยะเวลาของสีคงอยู่ได้ ประมาณ 45〜60วัน
ยิ่งเวลาผ่านไป สีจะเริ่มหลุดออกเรื่อยๆจนกลายเป็นสีซีดครับ
【Before】โคนใหม่ขึ้นมาประมาณ 2 ซม.ครับ
ในส่วนปลายผมสีหลุดซีดเป็นสี White Beige และไม่เกิดเส้นแบ่งของสีย้อมก่อนหน้ากับโคนขึ้นใหม่ ดูไล่เนียนสวยครับ
【After】ทำสีเฉพาะในส่วนโคนที่ขึ้นใหม่มาเท่านั้น
การลงสีเฉพาะในส่วนโคนทำให้โดยรวมดูแน่น และโทนสีโดยรวมก็ดูมีมิติที่ลึกขึ้น
ความคิดเห็นจากลูกค้า
หลังจากลูกค้าที่ได้รับบริการเมนูนี้จากทางร้าน ก็ได้แสคงความเห็นที่ดีใจต่างๆเข้ามามากมายเลยครับ
- 「หลังจากเริ่มทำโทนสว่าง โคนขึ้นใหม่ที่เป็นผมขาวก็ดูเนียนและลดความกังวลไปได้」
- 「ในช่วง 2〜3 อาทิตย์ที่ผมขึ้นใหม่ก็ยังรู้สึกว่ายังดูโดด แต่พอผ่านไปประมาณ 2 เดือนกลับไม่รู้สึกถึงความโดดแล้ว」
- 「เมื่อเทียบกับการย้อมเข้มปิดเพื่อปิดผมขาวแบบธรรมดาแล้ว ย้อมแบบสว่างสีดูออกมาสวยกว่า」
- 「ถูกชมจากเพื่อนๆและคนรอบข้าง」
- 「ด้วยที่ปกติต้องย้อมทุกเดือนอยู่แล้ว ตอนนี้สามารถสนุกไปการการลงสีต่างๆเพิ่มขึ้น」
- 「คิดว่าต้องคอยย้อมแต่สีเดิมๆ ตอนนี้สามารถเปลี่ยนทำสีต่างๆได้แล้ว ดีใจมากๆ」เป็นต้น และอีกมากมาย
แม้หลังย้อมสีจะอยู่ไปถึง1〜2 เดือน แต่การที่สามารถช่วยแก้บางปัญหาที่กังวลไปได้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เลยใช่ไหมครับ
เมื่ออายุมากขึ้นผมจะมีอาการแห้งได้ง่ายขึ้น ในการทำสีผมนั้นสามารถช่วยให้ผมที่แห้งสามารถดูเงางามและดูสขุภาพดีขึ้นได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยนะครับ
สรุป
วันนี้ก็ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ “ผมขาว” ที่รวบรวมจากลูกค้าประจำของทางร้านนะครับ
เพื่อที่สามารถสนุกไปกับการทำสีผมได้นั้นแม้จะไม่มาก แต่ทางร้าน neve ของเราจะคอยนำเสนอวิธีการย้อมที่หลากหลายต่างๆนั้นให้ครับ
และเคล็ดลับในการคงความสวยให้อยู่ต่อไปเรื่อยๆนั้น คือการวางแผนที่ดีครับ
มาลองเปลี่ยนจากการย้อมเพื่อปิดผมขาว มาเป็นแบบสไตล์ Gray Hair ที่อาจต้องใช้เวลาตามแต่ละขั้นตอน แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะต่างจากการย้อมแบบปกติที่เห็นผลในทันที ที่จะทำให้สวยในระยะยาวได้ครับ